ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี พร้อมราคาและโปรโมชั่นจากร้านดัง

by admin
54 views
ลำโพง marshall

ลำโพงบลูทูธ ไอเทมที่หลายคนขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้ดูหนังฟังเพลงเวลาอยู่บ้าน หรือเอาไปใช้กิจกรรมนอกบ้านอย่างปิกนิก หรือแม้แต่ออกไปเที่ยวพักผ่อนตามโรงแรม รีสอร์ท หลายคนก็ชอบพกลำโพงบลูทูธตัวโปรดไปด้วย ลำโพง Marshallนอกจากประสิทธิภาพเรื่องเสียง การเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย บางรุ่นยังสามารถพกพาไปได้ทุกที่ คงเป็นเรื่องการออกแบบและดีไซน์สุดคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ อย่างที่เราจะเห็นว่าหลายคนเอา ลำโพง Marshall ไปเป็นหนึ่งในพร็อพตกแต่งห้องหรือเป็นพร็อพถ่ายรูปลงโซเชียล Goodmaterial จะมาแนะนำลำโพง Marshall แต่ละรุ่น พร้อมราคาให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปช้อปกัน 

ทำไมหลายคนเลือกซื้อ ลำโพง Marshall ?

Marshall แบรนด์จากอังกฤษ ก่อตั้งโดย จิม มาร์แชล ซึ่งเป็นผู้ผลิตแอมป์กีตาร์ ลําโพง และหูฟัง Marshall เป็นหนึ่งในแอมป์กีตาร์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ซึ่งแบรนด์ก็ขึ้นชื่อด้านเครื่องขยายเสียง (Amplifiers) ระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเพลง Marshall ก็ได้วางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดมวลชนมากขึ้นโดยแตะไปที่ธุรกิจลำโพงระดับไฮเอนด์ ผ่านการมอบความสมดุลของเสียงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมด้วยดีไซน์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนตกหลุมรักจนยอมควักเงินซื้อ ลำโพง Marshall 

ด้วยวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่อยากสนับสนุนนักดนตรีและคนรักเสียงเพลง คาแรคเตอร์ของแบรนด์ก็มักนำเสนอลำโพงให้เป็นมากมากกว่าลำโพง โดยการนำเสนอความคลาสสิกและเสียงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วย

โดยในปัจจุบันมี ลำโพง Marshall มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นเด่น ๆอย่าง Marshall Acton II Bluetooth, Stanmore II Bluetooth, Stockwell II, Kilburn II ที่ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นที่อัพเกรดมาให้ทันยุคทันสมัย และยังมีรุ่นใหม่ ๆอย่าง Uxbridge Voice, Emberton และ Tufton อีกด้วย แต่หลาย ๆรุ่นก็มีหน้าตาที่เหมือนกันจนแยกแทบไม่ออกว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

 

แนะนำ Marshall Home Speaker 

เริ่มกันด้วยซีรีส์แรกกับ Marshall Home Speaker ที่มีให้เลือกถึง 3 รุ่น และมีให้เลือก 3 สีคือ White, Black และ Brown โดยแต่ละรุ่นก็มาพร้อมหน้าตาและฟังก์ชั่นที่เหมือนกันแทบทุกประการ ไม่ว่าจะป็น การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ที่รองรับ Codec ไร้สาย aptX ช่องเสียบสาย AUX/3.5 mm. รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone 2 เครื่องต่อลำโพง 1 เครื่อง และเชื่อมต่อลำโพง 2 เครื่องต่อ Smartphone 1 เครื่องผ่าน Application Marshall Bluetooth

ด้านบนของลำโพงมาพร้อมจุดเด่นของแบรนด์อย่างแผงควบคุม Control Knob ประกอบไปด้วย ปุ่ม Source, ปุ่มหมุนสำหรับเพิ่ม/ลดเสียง เสียงเบส และเสียงแหลม, ปุ่มเล่น/หยุดเพลง และปุ่มสำหรับเปิด/ปิด ข้อเสียของรุ่นนี้คือ เนื่องจากเป็น Home Speaker จึงไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัว ทำให้ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดการใช้งาน

1.Acton II Bluetooth 

รุ่นน้องเล็กของซีรีส์นี้ มาพร้อมกับขนาดเล็กกะทัดรัดเพียง 260 x 160 x 150 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 2.85 กิโลกรัม สเปครองรับความถี่ที่ 50 – 20,000 Hz มีแรงขับที่ 60 Watts เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีขนาด 30 ตารางวา หรือประมาณทาวน์โฮม

Acton II Bluetooth 

2.Stanmore II Bluetooth 

รุ่นกลางของซีรีส์ด้วยขนาดที่ 350 x 195 x 185 มิลลิเมตร น้ำหนักที่ 4.65 กิโลกรัม ในรุ่นนี้ได้เพิ่มช่องเชื่อมต่อ RCA เข้ามา รวมถึงรองรับการแปลงเป็น Amp กีต้าร์อีกด้วย สำหรับสเปครองรับความถี่เสียงที่ 50 – 20,000 Hz แรงขับที่ 80 Watts เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีขนาด 50 ตารางวา หรือบ้านเดี่ยวหลังเล็ก

Stanmore II Bluetooth

3.Woburn II Bluetooth

รุ่นใหญ่สุดของซีรีส์นี้ ด้วยขนาดที่ใหญ่ถึง 400 x 310 x 200 มิลลิเมตร น้ำหนักที่ 8.55 กิโลกรัม เพิ่มช่อง RCA และรองรับการเป็น แอมป์กีต้าร์แบบเดียวกับ Stanmore II Bluetooth พร้อมด้วยสเปคจัดเต็มโดยรองรับความถี่เสียงที่ 30 – 20,000 Hz พร้อมแรงขับเสียงที่สูงถึง 130 Watts เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ขนาด 100 ตารางวา หรือบ้านแฝด รวมถึงยังสามารถใช้บริเวณสวนนั่งเล่นไปจนถึงสนามฟุตบอลได้อีกด้วย

Woburn II Bluetooth

 

แนะนำ Marshall Portable Speaker

สำหรับซีรีส์ Marshall Portable Speaker มาพร้อมจุดเด่นตามชื่อซีรีส์ คือ ตอบโจทย์การใช้งานแบบพกพา โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ภายในตัวที่ใช้งานได้นานถึง 20 ชั่วโมง เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 เป็นพื้นฐาน รองรับการเชื่อมต่อลำโพง 1 เครื่องต่อ Smartphone 2 เครื่อง สามารถควบคุมจาก Smartphone เครื่องใดก็ได้อย่างลื่นไหล และมาพร้อมความกันน้ำ ซึ่งจะมีระดับการกันน้ำที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น แน่นอนว่าเรื่องเสียงจะมีความแตกต่างจากในซีรีส์ Home Speaker โดยให้แนวเสียงที่ฟังง่าย ให้รายละเอียดเสียงได้ครบถ้วน พร้อมเสียงเบสแบบพอดี ๆ ตอบโจทย์การฟังเพลงแทบทุกแนว

1.Emberton 

น้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดจากซีรีส์แบบพกพา เป็น ลำโพง Marshall 2020 ที่มาพร้อมขนาดกะทัดรัด 68 x 160 x 76 มิลลิเมตร ถือพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 0.7 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนของวัสดุเป็นยางขัดผิวคล้ายหนังซึ่งสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ กันน้ำที่มาตรฐาน IPX7 (กันน้ำลึก 1 เมตรไม่เกิน 30 นาที) และสเปครองรับความถี่ที่ 60 – 20,000 Hz แรงขับ 20 Watts ให้เสียงรอบทิศทาง 360 องศา ตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานกว้างราว ๆ 30 ตารางเมตร

Emberton 

2.Stockwell II 

ใหญ่ขึ้นมาหน่อยกับขนาดที่ 180 x 161 x 70 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม กับสีที่มีให้เลือกถึง 4 สีคือ Black, Grey, Indigo และ Black & Brass พิเศษด้วยหมุดด้านข้างขนาดเดียวกับหมุดใส่สายสะพายบนกีต้าร์สำหรับใส่หูหิ้ว และยังมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. อีกด้วย กันน้ำที่มาตรฐาน IPX4 สเปครองรับความถี่ที่ 50 – 20,000 Hz แรงขับ 20 ตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานกว้างราว ๆ 30 ตารางเมตร

Stockwell II 

3.Kilburn II 

รุ่นนี้ขนาดอยู่ที่ 243 x 162 x 140 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม มี 4 สีให้เลือก ช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. และหมุดใส่สายสะพายแบบเดียวกันกับรุ่น Stockwell II พิเศษด้วยการรองรับ Codec ไร้สาย aptX เป็นรุ่นเดียวในซีรีส์นี้ กันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX2 และสเปครองรับความถี่ที่ 52 – 20,000 Hz แรงขับ 36 Watts ตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานกว้างราว ๆ 50 ตารางเมตร

Kilburn II 

4.Tufton 

รุ่นที่ใหญ่ที่สุดในซีรีส์ลำโพงพกพา มีขนาดอยู่ที่ 229 x 163 x 350 มิลลิเมตร เท่า ๆ กับการวางรุ่น Stanmore II Bluetooth ในแนวตั้ง ส่วนน้ำหนักกำลังดีอยู่ที่ 4.9 กิโลกรัม มาพร้อมหมุดหูหิ้ว และช่อง AUX/3.5 mm. กันน้ำมาตรฐาน IPX2 และสเปครองรับความถี่ที่ 50 – 20,000 Hz แรงขับสูงถึง 80 Watts ตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานราว ๆ 100 ตารางเมตร

Tufton

 

Marshall Home Speaker vs Marshall Portable Speaker

สิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงเป็นข้อแรกเมื่อพูดถึง ลำโพง Marshall ก็คือเรื่อง เสียง ต้องบอกเลยว่าลำโพงทั้ง 2 ซีรี่ส์ข้างต้นนั้น มีแนวเสียงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยในซีรี่ส์ Home Speaker จะให้แนวเสียงเน้นไปโทนอุ่น เบสหนักแน่นกระหึ่มถึงใจ เหมาะกับการฟังเพลงแนวดนตรีสด หรือแนว Rock ที่เน้นเบสเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากซีรี่ส์ Portable Speaker ที่ให้แนวเสียงเหมาะกับการฟังเพลง Jazz, Bossa และ Pop ที่เป็นแนวเสียงสไตล์ทั่วไป ฟังง่าย และให้รายละเอียดเสียงได้ครบ

 

ไอเดีย ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

ลำโพง Marshall กับการตกแต่งห้อง

 

” ลำโพง Marshall ของแท้ร้านดังจาก Shopee “

 Marshall Official Store ใน Shopee ก็มีนะครับ 

Marshall Official Store ใน Shopee

 ไปยังร้านค้า 


 

จากร้าน true.officialshop

ร้านขายลำโพง Marshall ร้านขายลำโพง Marshall


 

จากร้าน bananaonlineshop

bananaonlineshop


 

bananaonlineshop


 

จากร้าน MEGALINK ELECTRONICS

“รีวิวจากผู้ซื้อจริงน่าเชื่อถือ ราคาไม่แรง เราขอแนะนำเลยครับ”

ร้าน MEGALINK ELECTRONICS


 


 


 


 

วิธีเลือกซื้อ ลำโพงบลูทูธ ?

จริง ๆ ลำโพงบลูทูธ ยังมีให้เลือกซื้ออีกหลายยี่ห้อที่ดีไม่แพ้กัน ใครที่กำลังจะหาซื้อแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เราขอแนะนำคร่าว ๆ ดังนี้สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธที่ดีที่สุด คือ จุดประสงค์หลักของการใช้ลำโพงนั้น เพราะลำโพงบางตัวอาจเหมาะใช้ในบ้าน บางตัวอาจเหมาะใช้นอกบ้าน หรือใช้ในกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเป็นพิเศษ แล้วเราค่อยพิจารณาสิ่งต่อไป

1.ดีไซน์ภายนอก

เหตุผลแรก ๆของการเลือกซื้อ ลำโพงบลูทูธ ก็ต้องเป็นเรื่องดีไซน์ภายนอก ทั้งในเรื่องความสวยงาม ขนาด ความสะดวกสบายในการใช้งานและการพกพาเสียงเพลงไปยังที่ต่าง ๆได้ง่าย แต่ละคนก็จะมีวิธีการเลือกหรือความชอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะเน้นว่าต้องเล็กและเบา พกพาง่าย หรือบางคนอาจจะชอบแบบไม่ต้องเล็กมากก็ได้แต่เน้นดีไซน์สวยเป็นหลัก เป็นต้น

 

2.คุณภาพเสียง

คุณภาพเสียงอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงเมื่อจะซื้อลำโพงบลูทูธสักตัว แต่มันก็เป็นสิ่งที่หลายคนแอบคาดหวังจากการซื้อลำโพงอยู่แล้วว่าจะได้ฟังเสียงเพราะ ๆจากลำโพงตัวนั้น ลำโพงบลูทูธจำนวนมากหลากหลายแบรนด์ก็ไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอะไรมากนัก แต่เน้นให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งลำโพงที่ดีเสียงจะต้องมีความคลีน (Clean Sound) หรือมีเสียงที่หนาชัดเจนแต่ฟังสบาย เสียงต้องไม่แหลมหรือเบสหนักจนเกินไป

พลังเสียง : ลำโพงบลูทูธบางตัวจะมีการระบุพลังเสียงไว้ในหน่วยวัตต์ สิบวัตต์ก็คือดังมากแล้ว แต่ในกรณีที่เป็นลำโพงบลูทูธขนาดเล็กสำหรับห้องขนาดใหญ่หรือสำหรับใช้ภายนอกอาคาร ก็จำเป็นต้องใช้พลังเสียงที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่างที่เราบอกว่า ต้องพิจารณาให้ได้ก่อนว่า จุดประสงค์หลักของการใช้ลำโพงนั้นคืออะไร 

 

3.ความทนทาน

เพราะลำโพงแบบพกพาบางตัวไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อพกพาไปข้างนอกหรือใช้ริมสระน้ำ ริมชายหาด เราอาจจะต้องมองหาลำโพงที่มีระดับ IP (Ingress Protection) คือ ระดับการป้องกันสิ่งต่างๆ ที่เข้าสู่ตัวเครื่องของผลิตภัณฑ์อย่างเช่นน้ำ และควรมีรับประกันการกันน้ำและกันการกระแทก หากคุณต้องการพกพาลำโพงตัวนั้นไปข้างนอกหรือใช้กับกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ

 

4.รุ่นของบลูทูธ   

สำหรับรุ่นของบลูทูธ Bluetooth v.1 เป็นรุ่นแรกที่ออกมาเมื่อหลายปีก่อน และหาอุปกรณ์ที่จะใช้ในตอนนี้ได้ยากมาก Bluetooth 2.1 มีให้เห็นได้เยอะมาก แต่ก็มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ใช้บลูทูธเวอร์ชันที่ใหม่กว่า อย่างเช่น Bluetooth 4.0 และ Bluetooth 5.0 รุ่นของบลูทูธยิ่งใหม่ก็ยิ่งสามารถแสดงเสียงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ดังนั้น หากลำโพงบลูทูธมี Bluetooth 2.1 ขึ้นไปก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เวอร์ชันที่สูงกว่าอาจจะมีความสามารถเพิ่มเติมสำหรับทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งในกรณีลำโพง Bluetooth 2.1 ก็ถือว่าโอเคแล้ว 

 

5.แบตเตอรี่

ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะเราก็คงไม่อยากมานั่งชาร์จลำโพงอยู่ทุกชั่วโมง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าลำโพงขนาดเล็กมักจะมีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าและใช้งานได้ไม่นาน ลำโพงที่ใหญ่กว่าบางรุ่นอาจใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมงเลยก็มี ซึ่งระยะเวลาการใช้งานของลำโพงโดยทั่วไปอาจอยู่ที่สี่ถึงสิบชั่วโมง ยิ่งเราเปิดลำโพงดังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้กระแสไฟมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเราจะซื้อลำโพงบลูทูธควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานเพียงพอสำหรับกิจกรรมที่เราต้องการหรือไม่

 

สรุปเคล็ดลับในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธสำหรับเรา ก็คือ การได้ฟังเสียงที่ดี พร้อมด้วยดีไซน์ที่เราต้องการ ในราคาที่เราจ่ายได้

 

 

  • หากท่านต้องการนำเนื้อหาหรือข้อมูลจากเว็ปเราไปใช้งานเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้โดยไม่มีผลประโยชน์ โปรดติดลิ้งค์เครดิตกลับมาหาเราที่หน้านี้
  • ข้อมูลอ้างอิง:  1

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2025 สงวนสิทธิ์ทุกประการ Good Material.asia