อุปกรณ์ออกกำลังกายด้วยตัวเองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกอันหนึ่ง คือ ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่มออกกำลังกายสำหรับคนยุคปัจจุบัน ที่หลายคนแทบจะไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่ค่อยสะดวกไปฟิตเนสหรือไปวิ่งตามสวนสาธารณะ แต่ในใจก็อยากออกกำลังกาย Goodmaterial จะมาแนะนำเกี่ยวกับลู่วิ่งไฟฟ้าให้กับมือใหม่ หรือกับเพื่อน ๆที่กำลังอยากลงทุนกับอุปกรณ์ออกกำลังกายสักหนึ่งอย่างเพื่อดูแลสุขภาพที่เรารักกันครับ
ทำความรู้จักลู่วิ่งไฟฟ้า
ลู่วิ่งไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างทุกวันนี้ ในช่วงปลายศตวรรษแรก มันถูกใช้ในลักษณะของเครื่องทุ่นแรงเพื่อยกของที่มีน้ำหนักมากโดยชาวโรมันโบราณ และในปี 1818 เซอร์ วิลเลียม คิวบิตต์ วิศวกรชาวอังกฤษได้คิดค้น “บันไดไม่รู้จบ (Everlasting Staircase)” เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ทรมานนักโทษ แต่ก็ได้ถูกยกเลิกไปแล้วในปี 1889
ปัจจุบันลู่วิ่งไฟฟ้าค่อนข้างตอบโจทย์การออกกำลังกายของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะเรื่องไลฟ์สไตล์อย่างการฟังเพลงหรือฟังเรื่องราวที่แต่ละคนสนใจ เพื่อความเพลิดเพลินระหว่างออกกำลังกายและไม่รู้สึกทรมานหรือท้อแท้กับการดูแลสุขภาพ เพราะถ้าเรายิ่งเบื่อมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะเลิกออกกำลังกายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ลู่วิ่งจึงเป็นเครื่องออกกำลังกายที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่มันก็ค่อนข้างมีราคาที่สูง เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานเป็นประจำ และรองรับการใช้งานที่ยาวนานนั่นเอง
ประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้า
ทำความรู้จักประเภทของลู่วิ่ง ซึ่งมีวิธีการแบ่งประเภทหลายแบบ ดังนี้
แบ่งประเภทตามแหล่งจ่ายไฟฟ้า (Power Supply)
- ลู่วิ่งแมนนวล : ลู่วิ่งประเภทนี้ต้องการให้ผู้ใช้ออกแรงดันสายพานวิ่งไปข้างหลัง และเคลื่อนที่ราวกับว่ากำลังเดินหรือวิ่งอยู่จริง ๆ ซึ่งเราจะต้องออกแรงจำนวนมากเพื่อเคลื่อนที่บนลู่วิ่งแบบแมนนวลนี้ มันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ไม่ค่อยแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายสักเท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็นลู่วิ่งที่มีราคาถูกที่สุดก็ตาม
- ลู่วิ่งไฟฟ้า : จะมีระบบมอเตอร์ที่ช่วยให้สายพานลู่วิ่งเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวของมันเองเมื่อเรากดสวิตช์เปิดปิด นอกจากนี้ยังมีแผงควบคุมพร้อมจอแสดงผลที่ด้านหน้าของเราด้วย เพื่อกำหนดความเร็ว ตรวจสอบระยะทาง ระยะเวลาออกกำลังกาย แคลอรี่ที่เผาผลาญ และอื่นๆ ผ่านแผงควบคุมนี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ออกกำลังกายทุกกลุ่ม
- ลู่วิ่งไฮบริด : มีประสิทธิภาพมากกว่าสองประเภทข้างต้น ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันและการผสมผสานคุณลักษณะของลู่วิ่งธรรมดากับคุณลักษณะของเครื่องปั่นจักรยานและการปีนพื้นที่ต่างระดับ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถันและโครงสร้างสแตนเลสที่ทนทาน มีลานวิ่งกว้างเพื่อใช้เป็นฐานของลู่วิ่งในลักษณะต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกายเครื่องเดียวแต่เหมือนได้ออกกำลังหลายอย่างในคราวเดียวกัน
แบ่งประเภทตามการใช้งาน
- ลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้าน (Home Treadmills) : ลู่วิ่งประเภทนี้มักออกแบบมาให้มีขนาดที่เหมาะสม กะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้านมากนัก ให้เราสามารถออกกำลังกายที่บ้านได้อย่างสบายใจ ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้านบางรุ่น ยังสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า อีกทั้งยังเป็นการลงทุนระยะยาวสำหรับผู้ที่รักสุขภาพอีกด้วย
- ลู่วิ่งเชิงพาณิชย์ (Commercial Treadmills) : อย่างเช่น ฟิตเนส ถือเป็นสถานที่ที่จำเป็นต้องมีลู่วิ่งมากที่สุด เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่มาออกกำลังกายโดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย มักจะมองหาลู่วิ่งก่อนเสมอเมื่อพวกเขาไปถึงฟิตเนส และเนื่องจากการใช้งานที่หนักและเป็นประจำ มอเตอร์ของลู่วิ่งเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่จะรองรับงานหนักเป็นพิเศษ และมีโครงสร้างที่แข็งแรง สายพานมีความทนทาน ขนาดใหญ่ และทำจากซิลิโคนซึ่งไม่ต้องเปลี่ยนหรือบำรุงรักษาบ่อย นอกจากนี้ สายพานเหล่านี้สามารถครอบคลุมระยะทางได้ถึง 15,000 ไมล์
แบ่งประเภทตามรูปร่างหรือการออกแบบ
- ลู่วิ่งพับได้ : แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นลู่วิ่งที่หลายคนไว้ใช้ในบ้านโดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ลู่วิ่งแบบพับได้ก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรแตกต่างหรือพิเศษออกไปนอกจากสามารถพับเก็บได้ ลู่วิ่งพับได้จึงมีน้ำหนักเบาและมาพร้อมกับล้อเพื่อให้เราสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกนั่นเอง
- ลู่วิ่งโค้ง : เป็นลู่วิ่งที่มีฐานโค้งเล็กน้อยและไม่ได้ทำงานโดยมอเตอร์ เมื่อเราขยับเท้าไปข้างหน้าเพื่อเดินหรือวิ่ง เท้าอีกข้างหนึ่งจะดันสายพานไปข้างหลัง การเคลื่อนไหวของเท้าจะทำให้สายพานขับเคลื่อนโดยไม่ต้องใช้มอเตอร์ มันจึงเหมาะกับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ไปจนถึงนักกีฬาส่วนใหญ่ด้วย
วิธีเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า สำหรับใช้ในบ้าน
โดยทั่วไปลู่วิ่งไฟฟ้าได้รับการออกแบบให้แข็งแรงขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับลู่วิ่งแบบแมนนวล อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าลู่วิ่งไฟฟ้าจะมีทั้งประเภทสำหรับใช้ในบ้านและสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างในฟิตเนส ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายคนเริ่มให้ความสนใจกับลู่วิ่งไฟฟ้าประเภทใช้ในบ้านกันมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่ารายเดือนกับฟิตเนสที่หลายคนก็แทบจะไม่ค่อยมีโอกาสหรือไม่มีเวลาได้ไปใช้เลยด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้าน คือ พื้นที่ งบประมาณ และเป้าหมายการออกกำลังกาย
1.เลือกพื้นที่ที่จะออกกำลังกาย
การเลือกพื้นที่ในบ้านที่จะออกกำลังกาย ก็เพื่อมองหาลู่วิ่งที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณนั้นให้มากที่สุด โดยให้เราวัดพื้นที่ที่จะวางลู่วิ่งโดยประมาณ (กว้าง x ยาว x สูง) หรือหากกำลังพิจารณาลู่วิ่งแบบพับได้ ก็ให้วัดพื้นที่ว่างสำหรับจัดเก็บด้วย
การเลือกพื้นที่ที่จะวางลู่วิ่งควรพิจารณาไปพร้อม ๆกับจุดประสงค์ในการใช้ลู่วิ่งนั้นด้วย เพราะหากเป็นลู่วิ่งที่เน้นการเดินเพื่อผ่อนคลาย ไม่ได้ถึงขนาดวิ่งจริงจัง อาจเลือกลู่วิ่งที่มีขนาดเล็กลงมาก็สามารถรองรับการออกกำลังกายนี้ได้แล้ว
2.เลือกคุณสมบัติของ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่ต้องการ
นอกจากคุณสมบัติของลู่วิ่งไฟฟ้า ควรกำหนดความต้องการและความชอบทั่วไปของเราด้วย ก็เพื่อไม่ให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ขัดกับไลฟ์สไตล์หรือความชอบ จนอาจเป็นสาเหตุให้เราท้อแท้หรือไม่มีกำลังใจในการออกกำลังกาย อาจพิจารณา การเชื่อมต่อกับมือถือ Bluetooth ช่องเสียบต่าง ๆ หรือจอทีวีประกอบด้วยก็ได้
แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น ขนาดสายพาน กำลังมอเตอร์ การรองรับน้ำหนัก การกันกระแทก การตั้งค่าความชัน การรับประกัน เป็นต้น
-
ขนาดสายพาน
ตามมาตรฐานทั่วไปขนาดสายพานลู่วิ่งที่แนะนำควรกว้าง 55 ซม. ยาว 140 ซม.ขึ้นไปสำหรับการวิ่ง และกว้าง 50 ซม. ยาว 130 ซม.ขึ้นไปสำหรับการเดิน ถึงแม้ว่าสายพานกว้าง 50 ซม. ยาว 130 ซม. จะเพียงพอต่อการวิ่ง แต่มันมีที่ว่างน้อยกว่าหรืออาจไม่เพียงพอหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นขณะวิ่ง
แต่ในความเป็นจริงที่ขายทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กกว่า 50 ซม. x 130 ซม. ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งสิ้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดหลักแต่อย่างใด
-
กำลังมอเตอร์
กำลังมอเตอร์ของลู่วิ่งจะอธิบายเป็น แรงม้า (HP) มอเตอร์ลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ที่ระหว่าง 2.25 ถึง 4.25 แรงม้า หากถามว่า เราต้องการกำลังมอเตอร์ลู่วิ่งมากแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนการออกกำลังกายและน้ำหนักตัวของเราด้วย
หากมีน้ำหนักไม่เกิน 90 กิโลกรัม ควรเลือก 2.0 แรงม้าหรือสูงกว่าในกรณีเดิน, 2.5 แรงม้าหรือสูงกว่าในกรณีวิ่งจ๊อกกิ้ง, 3.0 แรงม้าหรือสูงกว่าในกรณีวิ่ง และหากคุณมีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม ควรเพิ่มอีก 0.5 แรงม้า เนื่องจากมอเตอร์ที่ทำงานเต็มกำลังจะเสี่ยงต่อการสึกหรอที่เร็วกว่า และควรพักเครื่องอย่างน้อย 10-15 นาทีหลังการใช้งาน 100 นาที เพื่อยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์
-
การรองรับน้ำหนัก
โดยทั่วไปลู่วิ่งไฟฟ้าจะรองรับน้ำหนักอยู่ในช่วง 100 ถึง 180 กิโลกรัม
-
การกันกระแทก
เพื่อช่วยปกป้องข้อต่อและลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บเนื่องจากออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่ง กันกระแทกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ การวิ่งบนลู่วิ่งแบบมีกันกระแทกมักจะช่วยลดแรงกระแทกได้ประมาณ 15-40% เมื่อเทียบกับการวิ่งบนถนน ลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นมีระบบรองรับแรงกระแทกแบบปรับได้ เพื่อให้เราสามารถเลือกระดับการรองรับที่ต้องการ
-
การตั้งค่าความชัน
เพื่อช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความตึงเครียดในข้อต่อและช่วยเน้นกล้ามเนื้อให้มีความชัดยิ่งขึ้น ลู่วิ่งส่วนใหญ่สามารถปรับความชันได้สูงสุด 10, 15 หรือ 20% จากพื้นราบปกติ
-
การรับประกัน
ส่วนใหญ่แบรนด์จะรับประกันทั้งตัวเครื่องและมอเตอร์ โดยรับประกันตัวเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี และรับประกันมอเตอร์จะอยู่ที่ 2 ปีขึ้นไปจนถึงตลอดอายุการใช้งานก็มีซึ่งแล้วแต่รุ่นและเงื่อนไขของแต่ละแบรนด์ เราควรตรวจสอบเรื่องการรับประกันกับตัวแทนขายทุกครั้งก่อนซื้อด้วย
3.ลองไปใช้จริงหรือดูรีวิว
ใครที่มีความกังวลหรืออยากได้คำปรึกษาโดยตรง เราก็แนะนำให้ลองไปดูลู่วิ่งไฟฟ้าที่ร้านหรือห้างสรรพสินค้าที่มีจัดจำหน่าย โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูง การได้คำปรึกษาจากตัวแทนขายโดยตรง ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อได้เป็นอย่างมาก แต่หลายคนก็เลือกที่จะช้อปออนไลน์เพราะด้วยโปรโมชั่นและความสะดวกสบาย ซึ่งเราก็สามารถอ่านรีวิวจากผู้ซื้อจริงได้เหมือนกัน ในบางรุ่นยังมีการรีวิวอธิบายเป็นวีดีโอที่เข้าใจง่ายและน่าเชื่อถืออีกด้วย
ลู่วิ่งไฟฟ้า มือหนึ่งหรือมือสองดี ?
หลายคนตั้งคำถามกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยว่า ซื้อมือสองดีไหม? หรือจะซื้อมือหนึ่งไปเลยดี? แน่นอนว่าการซื้อ ลู่วิ่งมือสอง มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เราสามารถประหยัดเงินได้มากก็จริง แต่เป็นเรื่องยากที่เราจะคาดเดาปัญหาของลู่วิ่งไฟฟ้าตัวนั้นได้อย่างแน่นอน ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราได้เช็คข้อบกพร่องของเครื่องนั้นอย่างละเอียดแล้วจริง ๆก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อดีหรือข้อได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุดในการซื้อ ลู่วิ่งมือสอง คือ ราคา ส่วนข้อเสียก็มีอยู่สองสามข้อที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยการเช็คสายพานและลูกกลิ้งด้านหน้า-หลัง เช็คมอเตอร์ของเครื่องอาจจะด้วยการสอบถามลักษณะการใช้งานที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้เรามั่นใจเกินครึ่งว่าจะได้ลู่วิ่งที่ผ่านการใช้งานมาในสภาพที่ดีที่สุด
วิธีคิดง่าย ๆสำหรับการลงทุนซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า : ราคากับคุณภาพย่อมมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง หากเราซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูกอาจใช้งานได้ 1-2 ปี แต่หากเราซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่ราคามากกว่าสองเท่า แต่อาจจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าลู่วิ่งราคาถูก 3-5 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าย่อมประหยัดเงินได้มากกว่า หากเราวางแผนว่าจะออกกำลังกายไปนาน ๆอยู่แล้ว
9 ลู่วิ่งไฟฟ้า คุณภาพดี ราคาพิเศษ
1.ลู่วิ่งไฟฟ้า MX8
รายละเอียดสินค้า ลู่วิ่งไฟฟ้า แบบสายพานกว้างกว่าปกติ ราคาสุดคุ้ม ฟังชั่นครบเครื่อง
- ปรับความชันไฟฟ้า 18 ระดับ และ โปรแกรมการวิ่งอัตโนมัติ 12 แบบ
- มีระบบกันกระแทกโดยยางสปริง 8 จุด โดยรอบแบบ multiplex ทำให้การวิ่งมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
- ขนาดพื้นที่วิ่งกว้าง 48 ซม. มาตรฐาน และ ระบบเซฟตี้คีย์ หยุดเครื่องฉุกเฉิน
- มอเตอร์ปรับความเร็วได้ถึง 20 ระดับ ด้วยกำลังมอเตอร์ 4.8 แรงม้า พร้อมฟรังชั่นปรับความชันด้วยระบบไฟฟ้า 18 ระดับ
- รับน้ำหนักได้มากถึง 140 กิโลกรัม พร้อมจอ LED ทันสมัยแข็งแรง แสดงผล แคลลอรี่ ระยะทาง เวลา ความเร็ว ความชัน
- มาพร้อมกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้
ราคา : 15,900 บาท *พิเศษส่งฟรี กรุงเทพ และ ปริมณฑล | คลิกเพิ่มเพื่อน LINE >
2.N.A.F. ลู่วิ่งไฟฟ้า Mini Treadmill
รายละเอียดสินค้า อุปกรณ์ออกกําลังกาย ลู่วิ่งไฟฟ้า แบบเรียบแบน
- รุ่นเฟืองเหล็กแข็งแรงกว่าท้องตลาดที่เป็นเฟืองพลาสติก
- จอ LCD แสดงผล
- ควบคุมด้วยรีโมทไร้สาย
- รับน้ำหนักสูงสุดได้ 110 kg
- ขนาดสินค้า รุ่น F37(Gray)/ A08(Pink) / A21(White) / A23 A12 (Black มีราวจับ) / A13 (Pink มีราวจับ) / A22 (White มีราวจับ) 120*50*14CM
3.U’REVo Walkingpad Treadmill U1
ลู่วิ่งไฟฟ้า อัจฉริยะ Urevo U1 ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 14-60 ปีและมีความจุสูงถึง 90 กก. มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสำหรับเด็กโดยเฉพาะเพื่อการปกป้องที่ดียิ่งขึ้น แผงหน้าจอจะแสดงการอ่านค่าที่สำคัญเช่นความเร็วการเผาผลาญแคลอรี่ระยะทางที่ครอบคลุมและเวลาการใช้งานของแผ่นรองเดิน
รายละเอียดสินค้าลู่วิ่งไฟฟ้า อัจฉริยะ Urevo U1
- ขนาด 148.5 x 55.2 x 10.7 cm
- รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 90 Kg
- โหมดการใช้งาน เดิน , เดินเร็ว , วิ่งจ็อกกิ้ง / ความเร็ว 0.8 – 6.0 กม. / ชม.
- แรงดันไฟฟ้า 220V – 50Hz / กำลังไฟ 560W
4.Power Reform รุ่น RZ-500
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า Power Reform รุ่น RZ-500
- มอเตอร์กำลังสูงสุด 3 แรงม้า / ปรับความเร็วได้ 1-15 กม./ชม.
- สายพานกว้าง 46 ซม. x ยาว 123 ซม.
- พับเก็บได้ ด้วยระบบ Vertical 90 degree Folding พับขึ้น-ลง สะดวก ผู้หญิงก็พับได้
- มี Smart Holder วาง มือถือ แทปเล็ต ไอแพด ได้เลย ไม่ต้องกลัวหล่น
- App GFIT เทรนเนอร์การวิ่งส่วนตัวบนมือถือ เก็บข้อมูล เลือกโปรแกรมออกกำลังกาย พร้อมฟังก์ชั่นมากมาย
- หน้าจอ LED ทัสกรีนแสดงข้อมูลครบถ้วน ความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร
5.KINGSMITH R1 PRO
ลู่วิ่งไฟฟ้า KINGSMITH R1 PRO ระบบพับด้วยระบบพับแบบคู่ (Double Folding) เพื่อการจัดเก็บที่กะทัดรัดและเรียบง่าย โครงสร้างเป็นโลหะผสมอลูมิเนียม มีความทนทานและมั่นคง มอเตอร์ AC ประสิทธิภาพสูง เสียงเงียบ และประหยัดพลังงาน ขนาดกะทัดรัด ประหยัดเนื้อที่จัดเก็บ
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า KINGSMITH R1 PRO
- ขนาดเมื่อกางออก 150 x 72 x 90 ซม. / ขนาดเมื่อพับเก็บ 98 x 72 x 15.5 ซม.
- ใช้งานได้ทั้งโหมดเดิน (Walking Mode) และโหมดวิ่ง (Running Mode)
- ปรับโหมดความเร็วได้ 2 แบบ คือ Automatic Mode ปรับความเร็วอัตโนมัติ เหมาะสำหรับมือโปร และ Manual Mode ปรับความเร็วด้วยรีโมท เหมาะสำหรับมือใหม่
- ควบคุมการใช้งานด้วยรีโมทคอนโทรล หรือเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น KS FIT / ควบคุมความเร็วของลู่วิ่งด้วยรีโมทคอนโทรล
6.KINGSMITH K15
ลู่วิ่งไฟฟ้า KINGSMITH K15 ลู่วิ่งตัวท็อปที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งใช้เดินและวิ่งได้ในหนึ่งเดียว ตัวเครื่องดีไซน์สวย แข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กิโลกรัม สายพานกว้างวิ่งสบาย ปรับความเร็วได้ 0.8-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ควบคุมการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น โดยสามารถใช้งานผ่าน MI HOME ให้คุณออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย แค่มีติดบ้านเอาไว้ก็สามารถออกกำลังกายได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้าKINGSMITH K15
- ขนาดสายพาน 120 x 48 ซม. / ขนาดเมื่อกางออก 142 x 82.8 x 114 ซม. / ขนาดเมื่อพับเก็บ 142 x 82.8 x 31 ซม.
- ปรับโหมดการใช้งานได้ 3 โหมด (โหมด HIIT, โหมด Fat Burning และ โหมด Walking)
- พับเก็บพิงกำแพงได้ 90 องศา ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ / ระบบพับกันกระแทก พับเก็บได้อย่างนุ่มนวล
- ความเร็วสูงสุด 0.8-15 km/h /ความลาดชัน 4% เหมาะสำหรับการวิ่ง
- มอเตอร์ 1.25 แรงม้า / เสียงเงียบเพียง 60db
- รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 kg
7.Amazfit Airrun
Amazfit Airrun Smart Treadmill ลู่วิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะพับเก็บได้ เชื่อมต่อผ่านแอพ ออกกำลังกายที่บ้าน ดีไซต์แบบมินิมอล วัสดุของลู่วิ่งเป็นโลหะ ไร้รอยต่อ ดูเรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบ แจ้งเตือนการซ่อมบำรุงเมื่อถึงกำหนดเวลา ช่องหยอดน้ำมันและเครื่องมือ จะอยู่บริเวณมุมเครื่อง ง่ายต่อการหยิบใช้และจัดเก็บ
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit Airrun
- สายพานวิ่งที่มีความกว้าง 130X50 ซม. (51X19.5 นิ้ว) ให้ความรู้สึกมั่นคงและมีเสถียรภาพขณะวิ่ง มาพร้อมกับสารเคลือบยางกันลื่น ทำให้วิ่งสบายและปลอดภัย
- พับง่าย ใช้เวลาเพียง 5 วิ มีปุ่มกดสั่งพับบริเวณด้านหลังที่วางแขน สามารถพับเก็บใต้เตียงหรือใต้โต๊ะ ช่วยประหยัดพื้นที่ถึง 80%
- Built-in ลำโพง JBL สองข้าง ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมขณะออกกำลังกาย
- ดูดซับแรงกระแทกและการป้องกันการกระแทกที่หัวเข่า
- ซิงค์ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจกับอุปกรณ์ที่สวมใส่* สามารถใช้ได้กับ Amazfit GTS , GTR Bip และอื่นๆอีกในอนาคต
8. FITEX รุ่น R800
FITEX R800 สายพานกว้าง 55cm พร้อมระบบปรับความชันไฟฟ้า 1-18 ระดับ ระบบ โช๊คตัวใหญ่พิเศษ พร้อมด้วย ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก USA เปลี่ยนแรงกระแทกจากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน ลดแรงกระแทกตามข้อของผู้วิ่งได้มากถึง 70% รับประกัน 1 ปี มอเตอร์ประกัน 7 ปี โครงสร้างเหล็กตลอดอายุการใช้งาน ตามเงื่อนไขของบริษัท
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า FITEX R800
- ขนาดสายพาน 550 x 1400 มม.
- รองรับน้ำหนักสูงสุด 160 กิโลกรัม
- ปรับความชันไฟฟ้า 1-18 ระดับ / ความเร็ว 1 – 18 กม./ชม.
- ระบบ Stero สามารถฟังเพลง MP3 จากมือถือและ USB / โปรแกรมการออกกำลังกาย 109 Programs
- หน้าจอ LCD 7.5 นิ้ว แสดงหน้าจอ ความเร็ว ระยะทาง เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจร
- เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Bluetooth IOS และ Andriod ด้วย App เทรนเนอร์ส่วนตัว บันทึกข้อมูลการวิ่ง/ระยะทาง/เวลา/ชีพจร และสามารถสั่งเพิ่มลดความเร็วจากมือถือได้ทันที (สำหรับรุ่น LCD 7.5″)
9.CORE-FITNEES FIT RUN
CORE-FITNEES ลู่วิ่งไฟฟ้า FIT RUN เหมาะกับการใช้งานได้ทั้งในบ้าน หรือในระดับฟิตเนส หรือโรงแรม รองรับการใช้งานคู่กับ Zwift app วิ่งแข่งออนไลน์กับคนทั้งโลกด้วย Zwift ปรับความชันอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อใช้งาน Kinomap app กับวิดีสนามวิ่งและภาพบรรยากาศจริง เหมือนได้วิ่งเทรล
รายละเอียดลู่วิ่งไฟฟ้า CORE-FITNEES FIT RUN
- รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
- ขนาดสินค้า : 2220 x 910 x 1490 mm /พื้นที่สายพาน : 1500 x 520 mm
- เพิ่มความเร็วได้ถึง 20 Km/h และ ปรับความชันสูงสุด 18 ระดับ
- พื้นที่วิ่งนุ่มนวล รองรับแรงกระแทก กว้างใหญ่ถึง 520 มิลลิเมตร พร้อมที่พักเท้าเมื่อหยุดวิ่งชั่วคราว ป้องกันอุบัติเหตุ
- Auto Oil System เพิ่มความลื่นไหลของสายพายวิ่งอัตโนมัติ
- พับเก็บได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงยก ด้วยระบบยกแบบ Smart Hydraulic
- รับประกันมอเตอร์ 5 ปี / รับประกันโครงสร้าง 7 ปี
กล่าวโดยสรุป อย่างไรก็ตามเราควรมองหา ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวที่เหมาะสมตามความสนใจส่วนตัวของเราจริง ๆ และเหมาะสมกับร่างกายของเราด้วย และอย่าลืมตระหนักถึงงบประมาณ และข้อจำกัดด้านพื้นที่หากเราจะซื้อมาใช้งานในบ้าน เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อการดูแลสุขภาพของเราในระยะยาวแล้วครับ
- หากท่านต้องการนำเนื้อหาหรือข้อมูลจากเว็ปเราไปใช้งานเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้โดยไม่มีผลประโยชน์ โปรดติดลิ้งค์เครดิตกลับมาหาเราที่หน้านี้